วิชาศิลปะ

แผนกิจกรรมการเรียน การสอน “ศิลปะ” ปี การศึกษา 2568

โครงสร้าง: 40 กิจกรรม × 1 ชั่วโมง = 40 ชั่วโมง (20 ชั่วโมง/ภาคเรียน)
เป้าหมายภาพรวม: พัฒนาทักษะสร้างสรรค์ (Creative Skills), ความเข้าใจองค์ประกอบศิลป์ (Art Elements), การชื่นชมคุณค่าศิลปะ (Art Appreciation) และการทำงานเป็นทีม (Collaboration)

          ในยุคที่การพัฒนาเยาวชนต้องคำนึงถึงทั้งความคิดสร้างสรรค์ ทักษะในศตวรรษที่ 21 และความเข้าใจในอัตลักษณ์ของตนเอง วิชาศิลปะจึงเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้แสดงออกอย่างอิสระผ่านสี เส้น รูปทรง และเทคนิคหลากหลาย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ชั่วโมงนี้ ได้ออกแบบกิจกรรม 40 รายการ ที่ผสมผสานทั้งความรู้พื้นฐานศิลปะ การรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล การส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด และการปลูกฝังวัฒนธรรมไทยอย่างกลมกลืน

           กิจกรรมในแต่ละสัปดาห์มีความหลากหลาย ทั้งในด้านสื่อ เทคนิค และรูปแบบการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง ไม่ซ้ำซาก เริ่มตั้งแต่กิจกรรมง่าย ๆ ที่เน้นการสังเกต เช่น “ล่ารูปทรงรอบตัว” เพื่อฝึกการรับรู้รูปทรงในสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงกิจกรรมที่ต้องอาศัยกระบวนการคิดและการวางแผน เช่น “ออกแบบปกหนังสือเล่มโปรด” และ “Infographic ศิลปินเด็กโลก”

           กิจกรรมมีการผสมผสานระหว่างศิลปะพื้นฐาน เช่น การวาดภาพ ระบายสี การตัดแปะ และการปั้น เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การวาดภาพในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การออกแบบอวาตาร์ และการสร้างสรรค์ภาพพิมพ์ดิจิทัล พร้อมทั้งยังส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักงานศิลป์ไทยผ่านกิจกรรมอย่าง “ลายก้านขดง่าย”, “การ์ดมงคลลายไทย” และ “โคมไฟยี่เป็ง”

           เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง กิจกรรมจำนวนหนึ่งจะเปิดโอกาสให้เรียนรู้ผ่านการจัดนิทรรศการขนาดย่อม การสะท้อนคิดหลังเรียน (reflection) และการประเมินตนเองและเพื่อน เช่น “นิทรรศการย่อมุมห้อง”, “จัด Mini Art-Show” และ “สะท้อนคิด & ประเมินตน”

           การประเมินผลในแผนนี้จะใช้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบใช้เกณฑ์ (rubric), แบบรายการ (checklist), แบบทดสอบย่อย (quiz), การสังเกตพฤติกรรม, การสะท้อนผลลัพธ์ของนักเรียน และการนำเสนอผลงาน โดยมุ่งเน้นการประเมินความสามารถจริงและการเติบโตของผู้เรียนเป็นรายบุคคล

แผนการเรียนรู้ 40 ชั่วโมงนี้ นอกจากจะเป็นกรอบการจัดกิจกรรมแล้ว ยังสามารถปรับยืดหยุ่นได้ตามความสนใจของผู้เรียนและบริบทของโรงเรียน โดยครูสามารถเลือกสรรกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงเวลาของปีการศึกษา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย มีคุณค่า และสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้เรียนทุกคน